ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2005

ดาวเดือน

เดือนโหยหาหนึ่งดวงเด่นใกล้ ดาวศุกร์ใสส่องแสงเคียงข้าง ดาวเดือนด่ำดื่มสุขแรมร้าง ดาวอ้างว้างยามไร้เงาเดือน ใจหนึ่งหาหนึ่งใจชิดใกล้ ใยหนึ่งใจไร้คู่เคียงเหมือน ใจใยไม่เป็นเช่นดั่งเดือน สุดสะเทือนใจทมตรมในเงา เมื่อไรหนอรอใจมาเด่นใกล้ แล้วเมื่อไหร่ดวงใจจะไม่เหงา เมื่อไหร่หนอรอใครมาเคียงเงา เมื่อไหร่หนอจะมี..เรา..เคียงคู่กัน

แค่เพียงเงา

แค่เพียงเหงา มีใครไหมจะรับรู้ แค่คนเดียวที่เฝ้าดู ในความเหงา แค่เพียงเงา ไร้ซึ่งคน มาสนใจ แค่มองไป เพียงผ่าน ไม่น่าสน เคยอิจฉา...คนเค้ามี อยู่ข้างกาย เคยอยากเล่า...เรื่องมากมาย ให้รับรู้ เคยอยากเห็น...ในทุกวัน ตื่นมาดู เคยเพ้ออยู่... ถึงใคร ไหนสักคน อยู่ลำพัง หัวเราะ ก็เหมือนบ้า ตื่นขึ้นมา จะพูดจา กับใครไหน กินข้าวเช้า เที่ยงเย็น ไม่เห็นใคร ปรึกษาใคร ..ก็ไม่รู้..อยู่ลำพัง

ไม่สำคัญ

หากไม่มีฉัน ... ... แล้วดวงตะวันจะขึ้นทางทิศไหน ร้อนฝนแดดหนาวจะเป็นอย่างไร จะมีใครรับรู้ในเรื่องราว....... ที่ฉันมี หากไม่มีฉัน ... ... แล้วไง..ดวงจันทร์ เต็มดวงทุกวันไหม สายลมจะพัดย้อนทางใด ใครคนไหนรับรู้ในเรื่องราว....... เมื่อไม่มีฉัน และ เมื่อ ไม่ มี ฉัน ดวงดาวเหล่านั้นได้ยินฉันไหม หากฉันไม่ส่งเสียงออกไป จะถามหาฉันไหม...... ถ้าไม่มีฉัน

พยายาม

ด้วยแรงฝันพยายามอย่าท้อถอย อย่ามาคอยความหวังที่ไม่เห็น เพียงตัวเราช่วยเราให้ได้เป็น ต้องเคี่ยวเข็ญตัวตนฝึกฝนใจ ............................. แล้วที่สุดผลลัพธ์ก็คุ้มค่า ทุ่มเวลาโหมพลังมาสู้ไหว จึงสำเร็จคุ้มที่ลงแรงไป จงจำไว้ตนนั้นต้องช่วยตน

สับสน

ไม่รู้ว่าจะเลือกสิ่งไหนดี ไม่รู้ว่าจะดีเหมือนฝันไหม ไม่รู้ว่าดีร้ายสักเท่าใด ไม่รู้ว่าใครจริงใจอยางที่เป็น

เที่ยง ?

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ยามใดมีสุขสุขนั้นย่อมมีคลาย ของใดเคยเห็นย่อมผันและกลับกลาย คนยังมีวาย เกิดอยู่ คงอยู่ และดับลง

ความลับสำหรับฉัน

ใครคนหนึ่งในฝันอยากให้รู้ ใครคนนึงฉันเฝ้าดูนานหนักหนา ใครคนนั้นอยากบอกความในอุรา รู้ไหมว่ารอคอยเป็นเช่นไร ใครคนนั้นดั่งศรีขวัญประจำจิต หวังเชยชิดดั่งมดคอยชิมอ้อยหวาน เฉกภู่ผึ้งหวังเชยชมบุปผามานย์ ดั่งมุสิกหวังเชยเนยชั้นดี

ช่างเธอ

อยากรู้...นักว่าเมื่อไหร่เจ้าโฉมตรู จะให้รู้ความฝันที่วางไว้ ที่เธอฝากชีวิตและหัวใจ ไว้กับใครคนหนึ่ง..อยากจะรู้ แสนบังเอิญจริงหนอที่ทราบข่าว ถึงเรื่องราวที่แว่วเข้าผ่านหู ว่านานแล้วเธอบอกให้เฝ้าดู คนที่อยู่ทุกคนรู้เรื่องดี เธอไม่บอกหรือเธอลืมให้รู้ หรือยุ่งอยู่หรือเธออยากหันหนี แต่ช่างเถอะเหตุผลอาจจะมี จะร้ายดีแล้วฉันเกี่ยวอันใด เธอจะสุขก็ขอให้เธอสุข เธอจะทุกข์หรือหมองขนาดไหน ก็ตัวเธอรู้เองใช่ผู้ใด จะรู้ไปทำไมก็ป่วยการ

ใจเจ็บ

ใจเอ๋ยใจเจ็บเท่าไร..ไม่จำ ...................""........ ใจจึงช้ำเจ็บย้ำ..รอยเดิม ใจ..ใยไม่เรียนรู้เพิ่มเติม ................"""........... ใจใยไม่เคยเสริมสร้างภูมิคุ้มใจ ใจเอ๋ยใจโกรธใคร..ที่ไหนกัน ........................... ใจควรจะโกรธฉันมากมายเหลือใคร ใจเราเองไปแส่เรื่องเขาทำไม ...................''....... ใจรู้แล้วใช่ไหมตัวฉันทำเอง ใจเอ๋ยใจโปรดฟัง..คำฉันที ......................."".... ใจฉันต่อไปนี้ไร้เสียงบรรเลง ใจจำใจอยู่อย่างไร้เสียงเพลง ........................"... ใจใยเกรงแค่เงียบ แค่เหงา เดียวดาย ใจหยุดใจ..หยุดไว้เถิดหนา ............""............... ใจหยุดคว้าใจใครมากมาย ใจหยุดทุ่มเทใจและกาย ...................""""........ ใจหยุดหมายในสิ่งที่ไม่มีมา ใจทำสิ่งใดในสิ่งที่ใจหวัง ........................"""... ใจไม่ต้องยั้ง..ใจทำตามปรารถนา ใจอย่าแส่เสนอตัวเผยหน้าตา .........................".. ใจเอ๋ยหยุดไขว่คว้าคนรู้ใจสักที....ไม่มีเจอ

เกินใคร?

ดีเด่นยอดเยี่ยมดีหรือ นี่คือที่ฝันจริงไหม หากงามเกินหน้าผู้ใด ทำไปก็แค่เท่าตน หากเผลอทำพลาดผิดพลั้ง ใครยั้งทับถมฤาสน แม้งานย่ำที่อับจน ไม่ใช่งานตนแล้วไง ดีจริงหรือไม่ที่ฝัน ที่ฉันจะทำถูกไหม ทบทวนตรึกตรองในใจ แล้วไงถ้าฉันอยากทำ

หวานแต่ช้ำ

เพียงรสใดฤาหวานเท่าตาลอ้อย แสนหยดย้อยหอมหวนรัญจวนจิต หวานละมุนแม้หนึ่งน้อยหยดนิด หากแม้ชิดเชยชิมคงอิ่มใจ

นาที

เวลานาทีหมุนเวียน เหมือนเทียนจุดแล้วดับสูญ ยามยังมีค่าทวีคูณ เป็นศูนย์เหลือค่าอันใต ทุกยามเวลาจงรู้ ยามอยู่ทำให้สดใส อย่าให้เสียดายในใจ จงใช้ทุกค่านาที

เปิดเรื่อง

บันทึกถ้อยบรรจงร้อยนานาฝัน จดเพื่อปันแนวคิดจารึกเห็น ให้ระลึกครั้งหนึ่งซึ่งเคยเป็น เฉกดั่งเช่นเตือนสอนประโลมใจ หวังเรียงร้อยถ้อยคำความรู้สึก จากส่วนลึกสู่บันทึกอันสดใส ให้คิดถึงยามเดินทางสู่แดนไกล เชื่อมสายใยเหมือนชิดสนิทกัน @copyright 2005